8 มิถุนายน 2025

โรคมือเท้าปากในเด็ก เกิดจากอะไร ? รวมสาเหตุที่พบบ่อยและวิธีป้องกันเบื้องต้น

ในช่วงวัยซนของลูกน้อย สิ่งหนึ่งที่มักสร้างความกังวลใจให้กับเหล่าคุณพ่อคุณแม่คงหนีไม่พ้น “โรคมือเท้าปาก” โรคติดต่อที่มาพร้อมกับอาการไข้ ตุ่มใสตามมือ เท้า และในปาก ทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว งอแง และรับประทานอาหารได้ยาก

แล้วคุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยกันไหมว่า เจ้าโรคมือเท้าปากเกิดจากอะไร มีต้นกำเนิดมาจากไหน ? ทำไมถึงได้แพร่กระจายได้ง่ายนัก ? และเราจะสามารถปกป้องลูกน้อยของเราจากภัยร้ายนี้ได้อย่างไรบ้าง ?

ในบทความนี้ เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเจาะลึกถึงสาเหตุของการเกิดโรคมือเท้าปากแบบละเอียด เข้าใจถึงกลไกการแพร่เชื้อที่ซ่อนอยู่ และที่สำคัญ เราจะมาเรียนรู้วิธีป้องกันเบื้องต้นที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเสริมเกราะป้องกันให้ลูกน้อยห่างไกลจากโรคมือเท้าปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ


มือเท้าปาก เกิดจากอะไร

โรคมือเท้าปากมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่พบบ่อยและอาการไม่รุนแรง คือ คอกซากีไวรัส เอ16 (Coxsackievirus A16) ส่วนสายพันธุ์ที่อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ คือ เอนเทอโรไวรัส 71 (Enterovirus 71 หรือ EV71) เชื้อไวรัสเหล่านี้สามารถแพร่กระจายได้ง่ายจากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น น้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพอง อุจจาระ หรือจากการไอ จาม ละอองฝอย รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วนำมาสัมผัสปาก จมูก หรือตา โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง

อาการเริ่มต้นของโรคมือเท้าปากมักคล้ายกับอาการของไข้หวัดทั่วไป โดยผู้ป่วยอาจมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย เจ็บคอ และเบื่ออาหาร หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน จะเริ่มมีตุ่มใสหรือแผลร้อนในขนาดเล็กหลายแห่งในปาก ทำให้เจ็บปากและรับประทานอาหารลำบาก ต่อมาจะสังเกตเห็นผื่นแดงหรือตุ่มใสขนาดเล็กที่ไม่คันบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า นิ้วมือ หรืออาจพบที่บริเวณก้นได้

ระยะฟักตัวของโรคมือเท้าปาก คือ ประมาณ 3-6 วัน หลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการป่วยออกมา โดยเชื้อไวรัสสามารถตรวจพบได้ในน้ำลายของผู้ป่วยประมาณ 2-4 วันก่อนเริ่มมีอาการ และยังคงสามารถพบเชื้อในอุจจาระได้นานหลายสัปดาห์หลังจากหายป่วยแล้ว อีกทั้ง ผู้ที่เคยเป็นโรคมือเท้าปากแล้วสามารถเป็นซ้ำได้อีก เนื่องจากเชื้อไวรัสมีหลายสายพันธุ์


มือเท้าปาก กี่วันหาย ?

โดยทั่วไป โรคมือเท้าปากจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 10 วัน หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

มือเท้าปาก รักษาเองได้ไหม ?

โรคมือเท้าปากสามารถรักษาเองได้ที่บ้าน ซึ่งวิธีรักษาโรคมือเท้าปากจะเน้นที่การบรรเทาอาการ เช่น การให้ยาลดไข้และแก้ปวด การดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ การรับประทานอาหารอ่อน ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือมีฤทธิ์เป็นกรด หากมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ไข้สูง ซึมลง รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ได้ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์

โรคมือเท้าปากอันตรายไหม ?

โรคมือเท้าปากส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้เอง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่พบได้น้อยมาก อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น ภาวะขาดน้ำ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที


ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โรคมือเท้าปากในเด็ก กลับมาเป็นภัยเงียบที่น่ากังวลสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ดังนั้น การดูแลสุขอนามัยของเด็กอย่างใกล้ชิดและการสังเกตอาการผิดปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

วิธีการป้องกันโรคมือเท้าปาก

🖐️ โรคมือเท้าปากป้องกันได้.. ด้วยการล้างมืออย่างถูกวิธี

การปลูกฝังสุขอนามัยที่ดีเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ที่บ้านของเราเอง การสอนให้เด็กล้างมืออย่างถูกวิธีเป็นปราการด่านแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่การเอามือไปจุ่มน้ำแล้วเช็ด แต่ต้องเน้นการใช้สบู่ถูให้ทั่วมือ ทั้งฝ่ามือ หลังมือ ง่ามนิ้ว และซอกเล็บ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู

🖐️ ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของรอบตัวเด็กอย่างสม่ำเสมอ

เด็กเล็กมักจะสำรวจโลกผ่านการสัมผัสและนำสิ่งของเข้าปาก ดังนั้น การทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของที่เด็กใช้ร่วมกันจึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการป้องกันที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู โดยเฉพาะของเล่นที่เด็กชอบนำเข้าปาก ด้วย สำลี และทิชชูเปียก สำหรับเด็ก หรือใช้น้ำสบู่แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด การดูแลความสะอาดของสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดปริมาณเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนและเข้าสู่ร่างกายของเด็กได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของ โรคมือเท้าปากในเด็ก ได้เช่นกัน

🖐️ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดในช่วงที่มีการระบาด

ในบางสถานการณ์ การพาเด็กไปในสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคมือเท้าปากได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านทางการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก หรืออุจจาระของผู้ป่วย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรค หรือหากจำเป็นต้องไป ควรดูแลสุขอนามัยของเด็กอย่างใกล้ชิด เช่น การล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของสาธารณะโดยตรง อาจช่วยลดความเสี่ยงได้

วิธีรักษาโรคมือเท้าปาก

🖐️ หยุดเรียนเมื่อป่วย หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธี

หากโชคร้ายที่ลูกน้อยมีอาการป่วย และสงสัยว่าเป็นโรคมือเท้าปาก การให้เด็กหยุดเรียนและพักผ่อนอยู่ที่บ้านเป็นสิ่งที่ควรทำ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เด็กได้พักผ่อนและฟื้นตัวเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังเด็กคนอื่น ๆ ในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กด้วย จากนั้น ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการดูแลรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

🖐️ สร้างสุขนิสัยไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

สุดท้าย การหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ช้อน ส้อม ผ้าเช็ดหน้า หรือแม้แต่ของเล่นบางชนิด ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคมือเท้าปากได้เช่นกัน ซึ่งการสอนให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ของส่วนตัว และไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น จะช่วยสร้างสุขนิสัยที่ดีและลดโอกาสการรับและแพร่เชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สรุปได้ว่า การป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับโรคมือเท้าปาก คือ การรักษาสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือบ่อย ๆ หรือการดูแลสุขอนามัยส่วนตัวอื่น ๆ และการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อไม่ให้เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากอยู่รอดและแพร่กระจายได้ง่ายนั่นเอง

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

สำลี และทิชชูเปียก

ซื้อเลย

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.

คาสิโน
ทดลองเล่นสล็อต
บาคาร่า
ทดลองเล่นสล็อต
สล็อต
สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ไม่มีขั้นต่ำ