5 มีนาคม 2025

ลูกน้อยผิวแพ้ง่าย ! เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมอย่างไรให้ปลอดภัยจากสารระคายเคือง

ปัญหาผิวแพ้ง่ายในเด็กเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลใจ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้อาการแพ้แย่ลงได้ บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการดูแลผิวเด็กแพ้ง่าย พร้อมทั้งแนะวิธีการเลือก ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผม ที่อ่อนโยน ปลอดภัย แถมยังช่วยบำรุงผิวของลูกน้อยให้แข็งแรงอีกด้วย


ผิวของเด็กมีความบอบบางและแตกต่างจากผิวของผู้ใหญ่ ทำให้มีโอกาสเกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ง่ายกว่า ฉะนั้น การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของผิวเด็กและผิวแพ้ง่ายในเด็กจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลผิวของลูกน้อยได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

1. ผิวเด็ก

ผิวของเด็ก โดยเฉพาะเด็กทารกและเด็กเล็ก มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากผิวของผู้ใหญ่ ดังนี้

  • ผิวบางกว่า

ผิวเด็กมีความหนาเพียงครึ่งหนึ่งของผิวผู้ใหญ่ ทำให้บอบบางและไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น สารเคมี แสงแดด และการเสียดสี

  • ชั้นไขมันน้อยกว่า

ผิวเด็กมีชั้นไขมันที่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นน้อยกว่า ทำให้ผิวแห้งง่ายและสูญเสียน้ำได้ง่าย

  • ค่า pH เป็นกลางกว่า

ผิวเด็กมีค่า pH ที่เป็นกลางกว่าผิวผู้ใหญ่ ซึ่งมีค่าเป็นกรดอ่อน ๆ ทำให้เกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติทำงานได้ไม่เต็มที่ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อและระคายเคือง

  • ต่อมเหงื่อยังพัฒนาไม่เต็มที่

ทำให้การควบคุมอุณหภูมิของผิวยังไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ ทำให้เกิดผดผื่นจากความร้อนได้ง่าย ด้วยลักษณะเหล่านี้ ผิวของเด็กจึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้กับผิว

2. ผิวแพ้ง่ายในเด็ก

ผิวแพ้ง่ายในเด็ก คือ ภาวะที่ผิวมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ มากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ผิวแห้ง : ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และคัน

  • ผื่นแดง : เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ทำให้ผิวแดง บวม และคัน

  • ผดผื่น : ตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือสีขาว มักขึ้นตามบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก และข้อพับ

  • คัน : อาการคันเป็นอาการที่พบได้บ่อยในเด็กผิวแพ้ง่าย ทำให้เด็กเกาและอาจทำให้ผิวถลอกและติดเชื้อได้

  • ผิวแห้ง : ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และคัน


สาเหตุของผิวแพ้ง่ายในเด็กนั้นมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจัยแรก คือ พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืด โรคแพ้อากาศ หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ลูกน้อยก็มีแนวโน้มที่จะมีผิวแพ้ง่ายมากขึ้น

ปัจจัยต่อมา คือ สิ่งแวดล้อม การสัมผัสกับสารระคายเคืองต่าง ๆ เช่น สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สบู่ น้ำหอม และฝุ่นละออง ก็เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้ง่าย นอกจากนี้ ระบบภูมิคุ้มกัน ของเด็กที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ มากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ง่ายกว่านั่นเอง


อย่างที่ได้บอกไปในข้างต้นว่า ผิวของเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก มีความบอบบางและไวต่อสารเคมีมากกว่าผู้ใหญ่ ฉะนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีอันตรายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการระคายเคือง ผื่นแพ้ และปัญหาผิวอื่น ๆ ซึ่งสารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยงในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก มีดังนี้

น้ำหอม (Fragrance/Perfume)

ลักษณะน้ำหอมเป็นส่วนผสมที่ใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับผลิตภัณฑ์ มักใช้คำว่า “Fragrance” หรือ “Perfume” ในฉลากส่วนผสม
ความอันตรายน้ำหอมมักประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง ผื่นแดง คัน หรือแม้กระทั่งปัญหาทางเดินหายใจในเด็กบางราย โดยเฉพาะเด็กที่มีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นโรคภูมิแพ้
คำแนะนำควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-free หรือ Unscented) หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมจากธรรมชาติในปริมาณน้อย

สารแต่งสี (Artificial Colors/Dyes)

ลักษณะสารแต่งสีสังเคราะห์ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับผลิตภัณฑ์ มักระบุด้วยชื่อ CI (Color Index) และตัวเลข เช่น CI 19140 (Yellow 5) หรือ CI 42090 (Blue 1)
ความอันตรายสารแต่งสีบางชนิดอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือระคายเคืองผิวหนังได้ โดยเฉพาะในเด็กที่มีผิวบอบบาง
คำแนะนำควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารแต่งสีสังเคราะห์ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสีธรรมชาติ หรือไม่มีสี

สารกันเสีย (Preservatives)

ลักษณะสารกันเสียใช้เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สารกันเสียที่พบบ่อย เช่น พาราเบน (Parabens), ฟีน็อกซีเอทานอล (Phenoxyethanol), และ MIT/MCIT (Methylisothiazolinone/Methylchloroisothiazolinone)
ความอันตรายสารกันเสียบางชนิด เช่น พาราเบน อาจมีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน และ MIT/MCIT อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังในเด็กบางราย
คำแนะนำควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากพาราเบน และเลือกใช้สารกันเสียชนิดอื่นที่อ่อนโยนกว่า เช่น โซเดียมเบนโซเอต (Sodium Benzoate) หรือโพแทสเซียมซอร์เบต (Potassium Sorbate) หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Paraben-free”

สารลดแรงตึงผิว (Surfactants)

ลักษณะสารลดแรงตึงผิวใช้เพื่อทำความสะอาดและทำให้เกิดฟองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่ แชมพู และครีมอาบน้ำ สารลดแรงตึงผิวที่พบบ่อย เช่น โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate หรือ SLS) และโซเดียมลอริธซัลเฟต (Sodium Laureth Sulfate หรือ SLES)
ความอันตรายสารลดแรงตึงผิวบางชนิด เช่น SLS และ SLES อาจทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากมีฤทธิ์ในการชะล้างไขมันตามธรรมชาติของผิว
คำแนะนำควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารลดแรงตึงผิวที่อ่อนโยนกว่า เช่น โคคามิโดโพรพิลเบทาอีน (Cocamidopropyl Betaine) หรือกลูโคไซด์ (Glucosides) ซึ่งมีฤทธิ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “SLS/SLES-free”

แอลกอฮอล์ (Alcohol)

ลักษณะแอลกอฮอล์ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวทำละลายหรือช่วยให้ผลิตภัณฑ์แห้งเร็ว แอลกอฮอล์ที่พบบ่อย เช่น เอทานอล (Ethanol), ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol) หรือแอลกอฮอล์ Denat (Alcohol Denat)
ความอันตรายแอลกอฮอล์บางชนิดอาจทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในเด็กที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
คำแนะนำควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อย และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว เช่น กลีเซอรีน หรือเซราไมด์


การเลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมสำหรับลูกน้อยเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะผิวของเด็กมีความบอบบางและไวต่อสารเคมีต่าง ๆ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองและอาการแพ้ได้

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Hypoallergenic”

คำว่า Hypoallergenic คือ ผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแพ้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เลย 100% เพียงแต่ลดโอกาสลงเท่านั้น โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ Hypoallergenic มักมีส่วนผสมที่อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อย เช่น น้ำหอม สารกันเสีย และสี

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Dermatologically tested”

คำว่า Dermatologically tested คือ ผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่ามีความอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง การทดสอบนี้มักทำกับกลุ่มตัวอย่างเพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

  • อ่านฉลากอย่างละเอียด

การอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณทราบส่วนผสมทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้ น้ำหอม (Fragrance/Perfume), สารแต่งสี (Artificial Colors/Dyes), สารกันเสีย (Preservatives), สารลดแรงตึงผิว (Surfactants) และแอลกอฮอล์ (Alcohol)

  • การทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้จริง

ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกน้อย ควรทดสอบอาการแพ้เบื้องต้น โดยเริ่มจากการทาผลิตภัณฑ์ในบริเวณเล็ก ๆ เช่น ข้อพับแขน ขา หรือหลังหู จากนั้นสังเกตอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง คัน หรือบวม เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง หากไม่พบอาการแพ้ใด ๆ แสดงว่าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์นั้นกับลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ


จะเห็นได้ว่า การเลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมที่เหมาะสมและปลอดภัยเป็นส่วนสำคัญในการดูแลผิวของลูกน้อย ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด !

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผม

ซื้อเลย

For the best experience, we recommend viewing the site in portrait orientation on mobile devices.